วันอังคารที่ 21 กรกฎาคม พ.ศ. 2552

พิชิตรัก ลุ้นหัวใจนายเพื่อนสนิท Part : 10

หลังจากช่วงเวลาที่ชวนให้ฉันสับสนและแสนจะเงียบเหงาได้ผ่านไป หนุ่มๆ รักษาดินแดน
ผู้ร่วมก๊วนเดียวกันก็กลับมา ก๊วนเรายังคงสนุกสนานเฮฮา และขี้เมาตามเคย แต่ฉันรู้สึกว่า
ตัวฉันเองนั่นแหละที่แปลกไป ฉันไม่กล้าสบตาเป้ง ไม่กล้าต่อล้อต่อเถียงกับเขาเหมือน
วันก่อนๆ ฉันก็ไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกันว่าสิ่งที่ฉันเป็นอยู่นี้คืออะไร และส่วนเป้งเอง
ก็ดูเหมือนว่าจะเปลี่ยนไปเช่นกัน เขาแกล้งฉันบ่อยขึ้น โทรหาฉันทำเป็นถามเรื่องต่างๆ
ภายในโรงเรียนกับฉัน ทั้งๆ ที่เขาน่าจะรู้ดีกว่าฉัน เพราะเขาเป็นเพื่อนกับประธานนักเรียน
บางครั้งก็ทำดีกับฉันจนอย่างเช่นเวลาไปกินเหล้า ก่อนหน้านั้นเขาไม่เคยห้ามฉัน อยากดื่ม
เท่าไหร่ก็เชิญ อยากอ้วกตรงไหนก็ไป อยากจะอาละวาดตวาดด่าใครเขาก็ไม่ขวาง แต่เดี๋ยวนี้
เขามักจะยั้งฉันไว้แทบทุกครั้งที่เวลามีเพื่อนมาท้าแข่งดวลดื่มเหล้ากับฉัน แล้วเขาก็จะอาสา
ดื่มแทนฉัน ฉันกลัว กลัวใจตัวเองจะทนทานต่อความรู้สึกของตัวเองไม่ไหว และจะต้องบอก
เขาให้ได้ในสักวัน แต่ไม่ใช่ช่วงเวลานี้ วันที่เราต้องยังมาเห็นหน้ากันทุกวันอย่างวันนี้
เพราะฉันอาจจะผิดหวังและสูญเสียเขาไป
วันนี้ฉันเข้าแถวที่ห้องของตัวเอง ฉันไม่สนใจเสียงนกเสียงกาหน้าไหนทั้งนั้น ที่หน้าเสาธง
อาจารย์สอนพละที่ชื่อว่าอาจารย์นิวัฒน์กำลังพูดอะไรสักอย่างฉันก็ไม่ได้ตั้งใจฟังเท่าไหร่
แต่เอ๊ะ ได้ยินผ่านๆ หูว่าแข่งบาสอะไรนี่แหละ แข่งบาสงั้นเหรอ เอาละ ตั้งใจฟังแล้วน้า
(มันน่าดีใจตรงไหนเนี่ย) อีกสองอาทิตย์จะมีการแข่งบาสในโรงเรียนงั้นเหรอ
การแข่งครั้งนี้จะแบ่งเป็นสองระดับ ม.ต้น กับ ม.ปลายนี่เอง แล้วก็ไม่มีบาสหญิงเหรอเนี่ย
น่าเสียดายจริงๆ แล้วที่น่าเสียดายที่สุดคือ ให้ส่งทีมเข้าแข่งขันเป็นห้องเหรอ ว้า... ถ้าเป็น
ทีมที่ตั้งขึ้นเองนะ ก๊วนฉันชนะขาดแหงๆ ว่าแล้วฉันก็เดินไปสุมหัวกับก๊วนสักหน่อยดีกว่า
แอบเห็นว่าพวกมันฮือฮาน่าดู ก็ของมันแน่อยู่แล้วนี่นา ก็พวกฉันเล่นบาสกันเป็นกิจวัฒ
อยู่แล้ว ยิ่งมีการแข่งขันยิ่งน่าสนุกใหญ่เลย แล้วฉันก็จะได้ดูหนุ่มๆ แล้วก็น้องๆ หน้าตา
น่ารักๆ เล่นบาสกันทั้งโรงเรียนเลยสิเนี่ย โอ้ว พระเจ้าทรงโปรดฉันจริงๆ *o*

พอถึงช่วงพักกลางวันหลังจากที่ฉันกินข้าวเสร็จแล้วก็เดินมาที่สนามบาส แล้วก็เห็นเพื่อนๆ
กับเป้งพากันเล่นบาสอีกตามเคย แล้วเขาก็ชวนฉันเล่นบาสอีกตามเคย แต่ฉันปฏิเสธไป
เพราะเพิ่งกินข้าวเสร็จมาหมาดๆ เดี๋ยวไปวิ่งในสนามบาสจะพาลเอาขย้อนของที่เพิ่งกินเข้า
ไปออกมาเอา เสียดายอ่ะ แต่เอ...วันนี้ดูท่าทางของแต่ละคนแล้วมันดูจริงจังกับบาสเกินไป
รึเปล่า หรือจะเป็นเพราะไอ้การแข่งขันนั่น ถึงทำให้เป็นอย่างนี้ สบจังหวะที่พวกในสนาม
พักครึ่งแรกพอดี โห... มีแบ่งครึ่งด้วย แสดงว่าแข่งกันจริงจังสุดๆ
“นี่ รู้ว่าเขาแข่งบาสกัน แล้วทำไมไม่ซื้อน้ำติดมาด้วย คอแห้งจะตายแล้ว” เสียงเป้งต่อว่า
ฉันทั้งๆ ที่ฉันไม่รู้เรื่องสักหน่อย
“อ้าว แล้วจะตรัสรู้มั้ยฮะ ว่ากำลังแข่งกันอยู่อ่ะ คนเพิ่งเดินออกมาจากโรงอาหารเมื่อกี้นี่เอง”
ฉันว่ากลับเป็นชุด นึกโมโหไอ้บ้านี่สุดๆ
“ก็หิวน้ำอ่ะ” เขาพูดแล้วมองหน้าฉัน พอฉันกะว่าจะด่ากลับไปว่าหิวก็ไปหากินเองสิวะ
แต่ต้องชะงัก เพราะหันไปเจอสายตาที่ดูมีกระแสอ้อนวอนนิดๆ นั้นส่งมาให้ฉัน เฮ่อ
แล้วฉันก็ใจอ่อนจนได้
“เออๆ เดี๋ยวไปซื้อมาให้”
“อย่าซื้อมาให้แต่เป้งมันคนเดียวล่ะ เราก็หิวน้ำเหมือนกันนะ” ไอ้โก้ส่งเสียงกระแซะพร้อม
ทำตาระริกใส่ฉัน อีกต่างหาก
“ทำไมต้องซื้อมาให้เป้งมันกินคนเดียวล่ะ พวกมึงก็เป็นเพื่อนกูเหมือนกันนี่” ฉันตอบกลับ
ไปอย่างที่ไม่ตรงกับใจซักเท่าไหร่ ถ้าเป็นมากกว่าเพื่อนคงจะดี เฮ่อ ว่าแล้วก็ตรงไปซื้อน้ำ
มาถวายคุณชายทั้งหลายทันที
“ห้อง 9 ส่งทีมบาสมั้ย” ไอ้โก้ส่งเสียงถามฉันทันทีเมื่อพากันกินน้ำที่ฉันซื้อมมาถวายแล้ว
“ไม่ส่งล่ะมั้ง เห็นเค้าว่าถ้าเป็นฟุตบอลคงจะส่งอยู่”
“เออ ดี จะได้ตัดคู่แข่งไปอีกห้อง ทีนี้ก็เหลือคู่แข่งที่สำคัญแค่ห้อง 4 ห้อง 5 แล้วก็ห้อง 7”
“แล้วห้อง 8 ส่งเหรอโก้” ฉันถามกลับ
“ป่าว ไม่ได้ส่งอ่ะ”มันตอบพร้อมทำหน้ากวนประสาทใส่ฉัน
“แล้วมึงมีคู่แข่งตรงไหนทีนี้” ไอ้อ้วนถามบ้าง
“อ้าว ก็กูจะได้ดูพวกมึงแข่งกันเองไง ท่าทางจะมันส์”
“ยังไงๆ ห้อง 5 ก็ชนะแน่” ไอ้อ้วนพูดต่ออย่างมั่นใจ
“เฮอะ ห้อง 4 หรอกเว้ยที่จะชนะ” ไอ้อ๊อฟ ตัวแทนจากห้อง 4 ไม่ยอมให้ข่ม
“ห้อง 7 ก็พอมีลุ้นอยู่นะ” บุ๋มพูดขึ้นมาบ้าง แล้วสงครามน้ำลายก็เกิดขึ้นทันที
“ห้อง 5”
“ห้อง 4”
“ห้อง 7”
“เฮ้ย!! พวกมึงจะเถียงกันทำไมวะ เอาเป็นว่าห้องไหนที่ตกรอบก่อน ห้องนั้นเลี้ยงเหล้า
แล้วกัน มึงว่าไงโก้” ฉันหันไปหาคนที่ไม่มีส่วนได้ส่วนเสียอะไรในเกม ซึ่งมันก็พร้อม
รับมุกฉันอยู่ก่อนแล้ว
“ใช่ๆ ห้องไหนขี้แพ้ ห้องนั้นเลี้ยงเหล้า” มันว่าแล้วก็หันมาขยิบตาให้ฉันด้วยความถูกใจ
“เออได้” หลายเสียงตอบขึ้นพร้อมกัน ฉันจึงได้แต่กระหยิ่มยิ้มย่องอยู่ในใจ ฮิฮิ จะได้กิน
เหล้าฟรีก็คราวนี้ล่ะฉัน
“งั้นเอาเป็นว่า ห้อง 8 เลี้ยงโซดา ห้อง 9 ออกน้ำแข็งก็แล้วกันนะ” เสียงเป้งแทรกขึ้น
มา เอื้อกกส์... มีคนรู้ทันด้วยแฮะ ฉันกับโก้จึงได้แต่หันไปค้อนให้คนที่ฉันแอบเอาใจ
ช่วยตั้งแต่แรกพร้อมกัน
“เฮ้ยๆ แนนๆ” ไอ้โก้สะกิดฉันเบาๆ จากด้านหลัง ฉันจึงถอยกลับไปคุยกับมันแบบ
ไม่ให้ใครสังเกตได้
“อือ ว่าไง” ฉันถามด้วยเสียงที่เบาที่สุด
“คนที่มาจากห้อง 8 กับห้อง 9 มีแค่เราสองคนนะเว้ย ให้เลี้ยงโซดากับน้ำแข็งคน
เป็นสิบๆ ไม่จนแย่เหรอวะ” ไอ้โก้ถามฉันเสียงเครียดเพราะห่วงสถานะทางการเงิน
ของตัวเอง
“เอ้า มึงนี่ก็บื้อ ก็ให้มันกินเพียวๆ สิวะ จะได้ไม่ต้องเลี้ยงโซดากับน้ำแข็งพวกมัน
แค่นี้ก็สิ้นเรื่องแล้ว” ฉันพูดไปง่ายๆ เพราะฉันได้วางแผนไว้ก่อนแล้ว ฮ่าๆ
“เออ เข้าท่าแฮะ ฉลาดนะเนี่ย”
“ก็กูอยู่ห้อง 9 อ่ะ” ฉันพูดด้วยน้ำเสียงชวนหมั่นไส้สุดๆ
“เออ แม่คนฉลาด”
“ของมันชัวร์อยู่แล้ว”
“ชิส์”
การจัดลำดับในสายชั้น ม.6 นั้นจะจัดห้องเรียงลำดับตามความเก่งในด้าน
การเรียนตั้งแต่ห้อง 1 ถึงห้อง 9 ซึ่งเป็นสายวิทย์-คณิคฯ ส่วนห้อง 10
เป็นสายศิลป์ - ภาษา เพื่อนๆ ในก๊วนของฉันมีตั้งแต่ห้อง 4 ถึงห้อง 9
ซึ่งห้อง 9 ของฉันเขาเรียกว่าห้องคิง ส่วนห้อง 8 เขาเรียกว่าห้องควีน
ส่วนห้องที่เป็นที่กล่าวขวัญจากอาจารย์มากที่สุดในเรื่องของความซน
และความดื้อด้านมากที่สุด นั่นคือ ห้อง 4 และห้อง 5 ซึ่งไอ้ตัวแสบใน
ห้องนั้นๆ ก็อยู่ร่วม ก๊วนเดียวกันกับฉันเกือบหมด ฉะนั้น ไม่ต้องพูดถึง
ความแสบ ซ่า ของก๊วนพวกฉันเลย เพราะได้รวมพวกตัวแสบของแต่ละ
ห้องมารวมกันไว้ที่นี่
เมื่อใกล้ถึงเวลาเข้าเรียนในช่วงบ่าย พวกคุณชายในสนามบาสก็หยุดเล่นแล้ว
ก็มาพักเพื่อที่จะเตรียมตัวไปเรียน แล้วฉันก็แอบมองดูเขา(อีกแล้ว)
ดูเขาสิ เหงื่อท่วมตัวเลย ดวงหน้าที่ดูหวานๆ ของเขาติดจะแดงนิดๆ
ไม่รู้ว่าเป็นเพราะความเหนื่อยหรือตากแดดนานๆ กันแน่ ถ้าเขาไม่ได้เรียน
ร.ด. นะ ฉันคงคิดไปแล้วว่าไอ้ผิวขาวๆ ที่ดูบอบบางนั้น มันจะทนตากแดด
นานๆ อย่างนี้ได้ยังไง เขายกขวดน้ำจรดที่ริมฝีปาก แล้วดื่มมันเข้าไปอย่างไม่
ระมัดระวัง จนทำให้น้ำไหลย้อยลงมาตามปากและคางของเขา เขาเองก็ยกเอา
แขนเสื้อมาเช็ดออกอย่างลวกๆ อ๋า... ดูแขนเสื้อเขาสิ ดำเชียว ซกมกจัง
เห็นแล้วอยากจะกระโจนเข้าไปกระชากเสื้อออกไปซัก ให้จริงๆ ถ้าเขาให้ฉันซัก
ให้ไปตลอดชีวิตเลยคงจะดีสิ(ไปสมัครเป็นคนใช้เขาเลยไป๊)
เมื่อฉันมองเขาจนพอใจแล้ว ฉันก็แอบเคลื่อนกายไปเข้าเรียนอย่างเงียบๆ ตามเคย
(^.^)